วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2550

William Morris

นายทศพล กาญจนากร ID : 1490800750
นายศุภโชค สารติ๊บ ID : 1490801071
นางสาว พรทิพย์ จิรโสภณสวัสดิ์ ID : 1490801873
นางสาว วงศ์สิริ อื้อเพชรพงษ์ ID : 1490801881
William Morris


วิลเลียม มอร์ริส (William Morris กวี จิตรกร และนักออกแบบชาวอังกฤษ มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ. ๑๘๓๔-๑๘๙๖) เกิดวันที่ 24 มีนาคม 1834 และตายเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1896 william ได้สานต่อ ความคิดของรัสกินให้เป็นจริง โดยส่งเสริมการสร้างงานศิลปหัตถกรรมขึ้น ในยุคเครื่องจักรกล เช่น การทอ ย้อม และพิมพ์ผ้าด้วยมือ ไปจนถึงการพิมพ์หนังสือด้วยมือ ทำเครื่องเรือนด้วยมือ ผลงานศิลปหัตถกรรมเหล่านี้แม้จะมีคุณค่าทางสุนทรียภาพสูง แต่ก็มีราคาแพง
แม้ความคิดของมอร์ริสจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็สร้างความตื่นตัวให้แก่บรรดาช่างฝีมือ ต่าง ๆ จนในที่สุดมีการก่อตั้ง " กลุ่มช่างศิลป์และหัตถกรรมสมาคม " (Art Worker's Guild and Guild of Handicrafts) ขึ้นในปี ค.ศ. ๑๘๘๔ ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๘๘๘ ก็ได้ตั้งเป็น "สมาคมนิทรรศการ ศิลปหัตถกรรม" (The Arts and Crafts Exhibition Society) สมาคมนี้มีกิจกรรมระหว่างประเทศอย่างต่อ เนื่องในช่วงทศวรรษ ๑๘๙๐ ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวทางศิลปหัตถกรรม (Art and Craft Movement) ที่สำคัญและแพร่ไปสู่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปในรูปของศิลปะแนวใหม่ (modern style) หรือ นวศิลป์ (art nouveau) ซึ่งประสบความสำเร็จมากในประเทศเยอรมนีและออสเตรีย มีการก่อตั้งสถาบันบาวเฮาส์ (Bauhaus) ขึ้นในเยอรมนีในเวลาต่อมา ความเคลื่อนไหวทางศิลปหัตถกรรมนี้ ก่อให้เกิดแนวคิดเกี่ยวกับ การสร้างงานศิลปหัตถกรรมสมัยใหม่ ที่แพร่ไปสู่สถาบันศิลปะ จนกลายเป็นอารยธรรมสมัยใหม่ (Modern Civilization) สืบมาจนปัจจุบัน

แนวคิดของ วิลเลียม มอร์ริส ให้อิทธิพลต่อนักออกแบบ และศิลปินด้านประยุกต์ศิลป์ในยุโรป ทำให้เกิดกระบวนการออกแบบงานศิลปะตกแต่งแบบใหม่ และงานสถาปัตยกรรมแนวใหม่ ในช่วง ปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ (ทศวรรษ ๑๘๙๐) จนถึงสงครามโลกครั้งที่ ๑ (ค.ศ. ๑๙๑๔-๑๙๑๘) ศิลปิน แทบทุกสาขา พยายามนำเส้นโค้งมาใช้กับงานออกแบบมากขึ้น และนำสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ดอกไม้ ต้นไม้ และเถาไม้เลื้อย มาประยุกต์เป็นลวดลายต่าง ๆ โดยให้ความสำคัญกับเส้นโค้ง และการจัดองค์ประกอบศิลป์ของเส้นแบบไม่สมดุล (asymmetrical lines) หากเป็นภาพคนหรือสัตว์ ก็มักจะทำให้มีสัดส่วนสูงระหง หรือยาวกว่าปรกติ และใช้เส้นเลื่อนไหลไปตามลักษณะของลวดลาย บางครั้งจึงเรียกงานออกแบบลักษณะใหม่นี้ว่า noodle style ศิลปะแนวใหม่นี้นิยมใช้สีแปลก ๆ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสีของภาพพิมพ์ญี่ปุ่น ที่แพร่เข้าไปในยุโรป แนวคิดเหล่านี้ทำให้เกิดงานออกแบบ แนวใหม่ ที่ใช้เส้นโค้ง และรูปทรงของธรรมชาติ และกึ่งธรรมชาติ โดยศิลปินนำมาใช้กับงานออกแบบ ต่าง ๆ เช่น ปกหนังสือ เครื่องประดับ ลายเหล็กดัดซุ้มประตู หน้าต่าง เครื่องเรือน ลวดลายตกแต่งอาคาร สถาปัตยกรรม เป็นต้น
ในสมัยโบราณการออกแบบสิ่งพิมพ์มีจุดประสงค์เพื่อการเสนอข่าว การเผยแพร่ ข้อมูลต่าง ๆ ให้ กว้างขวางและมีปริมาณมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 15-17 ในปี ค.ศ. 1888 William Morris ได้ตั้ง Kelmscott Press ขึ้นที่ประเทศอังกฤษ และได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการผลิตหนังสือ โดยให้มีการออกแบบและวางรูปเล่มอย่างเป็นศิลปะที่จะต้องทำด้วยความประณีตและ รอบคอบ ดังนั้น ความคิดต่างๆ ในการออกแบบ การจัดวางรูปเล่ม การจัดพิมพ์หนังสือ และวัสดุทางการพิมพ์ ต่อมา ประมาณ ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) วิลเลียม มอริส (William Morris) นักประพันธ์ชาวอังกฤษได้พัฒนา
ผลงานออกแบบสิ่งพิมพ์ให้สวยงามขึ้นด้วยการตกแต่งหน้าหนังสือด้วยลวดลายให้เป็นกรอบล้อมรอบ
ข้อความ มีการตกแต่งตัวอักษรโดยเฉพาะอักษรตัวหน้าให้สวยงามเหมือนการตกแต่งตัวอักษรในคัมภีร์ ไบเบิลในยุคกลาง หลังจากนั้นการออกแบบสิ่งพิมพ์ได้รับความสนใจ และพัฒนาในด้านความงามมา เป็นลําดับ มีสถาบันออกแบบเกิดขึ้น มีการแยกหน้าที่ช่างพิมพ์ และนักออกแบบออกจากกัน การออก แบบสิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือขยายวงกว้างสู่การออกแบบ สิ่งพิมพ์ที่เป็นสื่อโฆษณาอื่นๆ ด้วย


ตัวอย่างผลงานของ William Morris











ที่มา:
http://en.wikipedia.org/wiki/William_Morris
http://www.hrc.utexas.edu/exhibitions/online/morris/

ไม่มีความคิดเห็น: